สีของแสงจากหลอด*LED*
แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นในช่วงที่ตามองเห็นคือแสงสีม่วง(380นาโนเมตร) จนถึงแสงสีแดง (620-760นาโนเมตร) เมื่อมีการผสมแสงสีต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างสมดุลจะทำให้เกิดเป็นแสงสีขาว(WHITE VISIBLE LIGHT) ในอดีตเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องเทคโนโลยีของฟอสเฟอร์ ทำให้ผู้ผลิตหลอดฟลูออเรสเซ้นกำหนดให้ผู้ใช้หลอดฟลูออเรสเซ้นต้องยอมรับคุณสมบัติของแสงขาว ด้วยการกำหนดศัพท์คำว่า *WARM WHITE* หรือ *COOL WHITE* ขึ้นมาโดยอ้างอิงสีของแสงขาวเข้ากับความรู้สึกของคนว่าแสงนี้ให้ความรู้สึกอุ่น แสงสีนั้นให้ความรู้สึกเย็น รวมถึงการกำหนดให้ใช้สีจากหลอดไส้เป็นแหล่งกำเนิดแสงอ้างอิง
ในปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมแสงสว่างพัฒนามากขึ้น การกำหนดคุณสมบัติของสีของแสงจึงพัฒนาขึ้นตามไปด้วย โดยการกำหนดคุณสมบัติด้านสีของแสงจากอุณหภูมิสี(COLOR TEMPERATURE) และความถูกต้องของสี (COLOR RENDERING INDEX: *CRI*)
@COLOR TEMPERATURE
เป็นการเปรียบเทียบแหล่งกำเนิดของแสงขาวว่าแสงจะมีสีเหลืองที่ให้ความรู้สึกอุ่นมากไหม หรือมีแสงสีฟ้าที่ให้ความรู้สึกเย็นมากไหม
เพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องอุณหภูมิสีก์ต้องเริ่มจากวัตถุดำ หรือ BLACK BODY ก่อน โดยวัตถุดำเป็นวัตถุไม่มีสี สีดำเกิดจากวัตถุดำดูดกลืนรังสีทุกชนิดที่กระทบกับผิววัตถุดำที่อุณหภูม 0 องศาเคลวิน ที่อุณหภูมินี้โมเลกุลของวัตถุจะหยุด ไม่มีการเคลื่อนที่ใดๆทั้งสิ้น เพื่อทำการทดลองจึงสร้างวัตถุดำขึ้นมาจากโลหะทังสเตนผสมกับคาร์บอน เมื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านวัตถุดำนี้ ผิวของวัตถุดำก์จะค่อยๆเปลี่ยนสีตามความร้อนที่เกิดขึ้นจากการไหลของกระแสไฟฟ้า เริ่มต้นจากสีแดง เปลี่ยนเป็นสีส้ม เปลี่ยนไปเป็นสีเหลือง และในที่สุดเป็นสีขาวอมฟ้า มันคืออุณหภูมิเปลี่ยนจาก 1,000 องศาเคลวิน เป็น 6,500 องศาเคลวิน นั่นคืออุณหภูมิสีของหลอดไฟฟ้าก์คืออุณหภูมิที่วัตถุดำให้แสงสีเดียวกับหลอดไฟฟ้านั้นๆ
@COLOR RENDERING INDEX: *CRI*
เป็นคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งในการเลือกชนิดของหลอดไฟฟ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้ในการเลือกหลอดฟลูออเรสเซ้นและหลอด HID มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 40 ปี *CRI* มีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 มาตรฐานของ CIE(THE INTERNATIONAL COMMISSION ON ILLUMINATION) ใช้หลอดไส้ INCANDESCENT LAMPเป็นหลอดอ้างอิง เนื่องจากไส้หลอดเป็นทังสเตน เป็นโลหะชนิดเดียวกับที่ใช้ทำวัตถุดำ ดังนั้นหลอดไส้จึงเป็นแหล่งกำเนิดแสงที่มีค่า *CRI* ที่สูงมากใกล้ๆค่า 100 ในปัจจุบัน CRI ยังนำมาใช้กำหนดความเที่ยงตรงของสีของแสงจากหลอด HBLED
อย่างไรก์ตามด้วยคุณสมบัติของหลอด*LED*ถึงแม้ว่า*LED*นั้นๆจะมีค่า CRI ที่น้อยๆแต่เมื่อเทียบกับแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ ดังนั้น NATIONAL INSTITUTE OF STANDARDS AND TECHNOLOGY (NIST) จึงได้พัฒนามาตรฐานใหม่ขึ้นมาแทนเรียกว่า COLOR QUALITY SCALE (COS) มาตรฐานใหม่นี้ยังนำมาใช้กับหลอดไฟฟ้าทั่วไป และหลอด *SOLID-STATE SOURCES* ทุกชนิดด้วย
มองหาหลอดไฟ*LEDคุณภาพเยี่ยม* แวะมา *www.boviga.com*
*LED คุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสม* *แวะมา www.boviga.com*
เรา*จำหน่าย*
@LED BULB
*www.boviga.com*
@LED TUBE
*www.boviga.com*
@LED HIGH BAY
*www.boviga.com*
@LED STREET LIGHT
*www.boviga.com*
@LED GARAGE LIGHT
*www.boviga.com*
@LED MADE TO ORDER DESIGN
*www.boviga.com*
@LED FOR INDUSTRY
*www.boviga.com*
@LED AT HOME
*www.boviga.com*
@LED AT OFFICE
*www.boviga.com*
@SUPERSAVE LED
*www.boviga.com*
@SOLAR CELL
*www.boviga.com*
@ENERYGY SAVING PROJECT
*www.boviga.com*
@ศูนย์รวมหลอดไฟ LED คุณภาพที่คุณไว้วางใจ
*แวะมา www.boviga.com*
0859769888
Line ID : BOXBRIGHT
E-mail : boviga.bbg@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น